รีวิวซีรี่ย์ใหม่ Black Knight (2023) Netflix

วันนี้ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการอย่าง Netflix ได้เปิดตัวซีรี่ย์น้องใหม่เรื่อง “Black Knight” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์เกาหลีฟอร์มยักษ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของการเอาตัวรอดในโลกที่ไร้อากาศหายใจ โดยได้กำหนดการเตรียมลงสตรีมในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 นี้บน Netflix ซึ่งพล็อตเรื่องได้เล่าถึงเหตุกาณ์ในการเอาตัวรอดที่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในอนาคตโลกจะไม่มีอากาศบริสุทธิ์ให้คนหายใจ และนี่คือไอเดียตั้งต้นของซีรี่ย์เรื่อง “Black Knight” ซึ่งอ้างอิงมาจากต้นฉบับเป็นเว็บตูน โยเล่าเหตุการณ์ในปี 2071 ซึ่งโลกพังพินาศ มีคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่รอดมาได้และต้องใส่หน้ากากเพื่อหายใจ เพราะสภาพอากาศอันเลวร้ายจึงมีการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจนมีคนเพียงบางกลุ่มที่มีอากาศบริสุทธิ์หายใจ และพวกเขาแทบจะไม่ออกจากบ้านด้วยซ้ำ จึงเกิดหน้าที่สำคัญขึ้นมา นั่นคือคนส่งของคนที่ทำหน้าที่นี้ได้ซึ่งจะต้องมีความเก่งกาจในศิลปะป้องกันตัว เพื่อใช้ป้องกันสิ่งของจากการถูกปล้นในครั้งนี้
สำหรับซีรี่ย์ “Black Knight” งานนี้ได้นักแสดงนำเป็น “คิมวูบิน” (จากผลงานเรื่อง “The Heirs” และ “Our Blues”) ที่มารับบทนำเป็นตัวละคร “ไนท์” 5-8 คนส่งของที่เก่งกาจเรื่องการต่อสู้เขาคือคนระดับตำนานที่ใครๆก็ยกย่อง จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเด็กหนุ่มที่อพยพมา และฝันอยากเป็นเหมือนกับเขา นอกจากนักแสดงหลักอย่าง “คิมวูบิน” แล้ว ซีรี่ย์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงโดดเด่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นทั้ง “อีซม” (นางเอกจากซีรี่ย์ Taxi Driver ซีซั่นแรก) และเพิ่งปรากฏตัวไปใน “Kill Boksoon” รวมไปถึง “คังยูซอก” (ผลงานจากซีรี่ย์เรื่อง Start-Up) และนี่คือผลงานการสร้างของผู้กำกับอย่าง “โชอึยซอก” ที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับ “คิมวูบิน” มาแล้วในหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์อย่างเรื่อง “Master ซึ่งตอนนั้นมี “อีบยองฮอน” และ “คังดงวอน” มารับบทนำ สำหรับเรื่อง “Black Knight” มีรายงานว่าจะมีความยาวทั้งหมด 6 ตอนจบ น่าจะกระชับและใช้เวลาดูกันไม่นาน โดย Netflix วางโปรแกรมไว้ 12 พฤษภาคมที่จะเสนอให้ดูแบบมารวดเดียวจบเลย